
วันนี้เราขอนำเสนอการเดินทางไปเที่ยวโดยใช้ รถไฟนำเที่ยว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางที่ต้องลองสักครั้ง เหมาะสำหรับคนชอบรับลม ชมวิวชิล ๆ ที่สำคัญราคาประหยัด งานนี้ไม่ว่าจะมากับใครก็รับประกันได้ว่าจะได้เที่ยวแบบสุดคุ้ม เต็มอิ่ม กับทั้งอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่น แบบเงินเหลือกลับบ้านแน่นอน
7 เส้นทาง รถไฟนำเที่ยว
1. กรุงเทพฯ – หัวหิน
รถไฟขบวน 261 จะออกจากสถานีกรุงเทพฯ 09:20 น. ถึงหัวหิน 14:15 น. (เที่ยวขากลับขบวนที่ 262 ออกจากหัวหิน 14:30 น. ถึงกรุงเทพฯ 20:20 น.) ราคาเพียง 44 บาท แต่จะได้เที่ยวทั้งทะเล ตลาด วัด อีกทั้งยังใกล้ห้างสรรพสินค้าและเต็มไปด้วยที่พักหัวหินมากมาย เพิ่มความสะดวกสบายในที่เดียว !
แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน เช่น ตลาดโต้รุ่งหัวหิน (400 ม.), สะพานปลาหัวหิน (900 ม.), วัดหัวหิน (500 ม.), เขาหินเหล็กไฟ (1.1 กม.) และอื่น ๆ
สถานีรถไฟหัวหิน ปลายทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้ ๆ เพียบเลย !
2. วงเวียนใหญ่-มหาชัย-แม่กลอง
การไปเที่ยวแม่กลองจะมีความซับซ้อนเล็กน้อย เพราะไม่มีรถไฟที่ตรงไปถึงแม่กลอง แต่ต้องเดินทาง 2 ต่อ เริ่มจากนั่งรถไฟขบวนวงเวียนใหญ่-มหาชัย มีเที่ยวรถให้เลือกเยอะมาก ๆ เช่น ขบวน 4303 4311 4321 4341 ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกว่า ๆ แถมราคาแค่ 10 บาท สามารถแวะซื้อของจากตลาดพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชาวมหาชัยได้ที่นี่ก่อนไปแม่กลอง
แล้วจึงนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งท่าฉลองราคา 3 บาท เพื่อต่อรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง แต่จะมีแค่ 4 รอบ ตั้งแต่ 07:30 น., 10:10 น.. 13:30 น. และ 16:40 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ราคา 10 บาท รวม ๆ แล้ว 23 บาทเท่านั้นเองนะ !
ที่ท่องเที่ยวชื่อดังแถวแม่กลอง เช่น ตลาดร่มหุบ ถือเป็นสถานที่น่าตื่นตาอีกแห่งเพราะรถไฟจะเคลื่อนผ่านตลาดแบบใกล้ชิดชนิดเอื้อมมือถึงเลยทีเดียว, วัดเพชรสมุทรวรวิหาร(วัดบ้านแหลม), พิพิธภัณฑ์บ้านขนมไทย, อุทยาน รัชกาลที่ 2 เป็นต้น
ตลาดร่มหุบ พอรถไฟมาเหล่าแม่ค้าพ่อค้าก็จะเก็บของ หลีกให้รถไฟวิ่งตรงกลางอย่างนี้เลย
3. กรุงเทพฯ – ชะอำ
รถไฟนำเที่ยว ขบวน 261 ออกจากกรุงเทพฯ 09:20 น. ถึงชะอำ จ.เพชรบุรี 13:44 น. ราคาตั๋วเพียง 44 บาท การเดินทางง่ายแสนง่าย เพราะเมื่อถึงสถานีปลายทางแล้วสามารถนั่งรถรับจ้างเพื่อไปหาดชะอำ ซึ่งห่างจากสถานี 3 กม. และไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน เพราะมีทั้งร้านค้า อาหารทะเล กิจกรรมก็ปัง ทั้งขี่ม้า เล่นบานาน่าโบ๊ท ปิกนิก เหมาะกับการผ่อนคลายมากเลย
หาดชะอำ สถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลยอดฮิต
4.กรุงเทพฯ – ปราจีนบุรี
เดินทางจากสถานีกรุงเทพฯ 08:00 น. ถึงปราจีนบุรีประมาณ 10:49 น. โดยรถไฟขบวน 281 ราคา 26 บาท เท่านี้ก็จะพาเราไปถึงตัวเมืองปราจีนบุรีได้แล้ว
สามารถนั่งรถสองแถวหรือรถรับจ้างไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ เช่น วัดแจ้ง (900 ม.), ผาหินซ้อน (8.4 กม.), ตลาดเดินเพลิน (2.2 กม.), ศาลเจ้าแม่ทับทิม (2.2 กม.), พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (4.5 กม.), อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ (13 กม.) และอื่น ๆ อีกมากมาย
อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ วิวทิวทัศน์สวยสุด ๆ ไปเลย
5. กรุงเทพฯ – อยุธยา
จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ไปถึงสถานีอยุธยา มีขบวนรถไฟให้เลือกมากมาย เช่น 317 339 303 233 ตั้งแต่ 06:10 น. – 23:05 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง ราคาเพียง 20 บาท และยังสามารถเลือกไปสถานที่ต่าง ๆ ตามความสะดวกของเรา ไม่ว่าจะเลือกเดิน นั่งรถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถว เรือข้ามฟาก รวมทั้งมีบริการให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์และจักรยานอีกด้วย จะเลือกประสบการณ์แบบไหนก็น่าสนุกทั้งนั้นเลย
อยุธยานอกจากจะโด่งดังเรื่องโบราณสถาน เช่น วัดมหาธาตุ วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดใหญ่ชัยมงคลแล้ว ที่อื่นก็น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะอยุธยา ไนท์ มาร์เก็ต, อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา, ตลาดน้ำทุ่งบัวชม, โบสถ์เซนต์ยอเซฟ คาเฟ่ใส ๆ สไตล์วัยรุ่นก็มีนะ
แหล่งเรียนรู้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
6. กรุงเทพฯ – เขาพระบาท
น้อยคนที่จะไม่รู้จักหาดบางแสน จ.ชลบุรี ซึ่งเราสามารถนั่งรถไฟขบวน 283 โดยออกจากกรุงเทพฯ 06:55 น. ไปถึงสถานีเขาพระบาท 10:06 น. ราคา 26 บาท ถึงแม้ว่าจะต้องต่อรถเพื่อเข้าหาด แต่ก็ไม่ยากนัก โดยเมื่อลงที่สถานีเขาพระบาทแล้วให้ต่อรถสองแถวจากศรีราชาไปลงหนองมน แล้วนั่งจากหนองมนไปลงหน้าหาด เท่านี้ก็เล่นน้ำทะเล ถ่ายรูป ปิกนิก ก่อกองทรายสบาย ๆ ได้แล้ว
หาดบางแสนแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนเหนือจะคึกคักเพราะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ส่วนทางใต้จะเงียบสงบกว่า นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีจุดน่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข, ตลาดหนองมน, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน ฯลฯ
หาดบางแสน รับลมทะเล บรรยากาศชิล ๆ
7. กรุงเทพฯ – ลพบุรี
สุดท้ายเราขอแนะนำ รถไฟนำเที่ยว ไปลพบุรี นั่งได้หลายขบวน เช่น 201 207 209 301 กำหนดออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มีตั้งแต่ 04:15 น. – 17:30 น. ราคา 58 บาท
ที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงสถานีลพบุรี ได้แก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, พระปรางค์สามยอด, พระที่นั่งไกรสรสีหราช, บ้านหลวงวิชาเยนทร์ ซึ่งล้วนเป็นแหล่งขึ้นชื่อของลพบุรีทั้งนั้นเลย ใครไปครบถือว่าสุดยอด ! หากยังเที่ยวไม่เต็มอิ่ม ยังมีสถานที่อื่น ๆ ในลพบุรีให้ไปเยี่ยมชม เช่น สวนสัตว์ลพบุรี, ศาลพระกาฬ, ประตูชัยและอื่น ๆ เลือกชมได้เต็มที่เลย
สถานีรถไฟลพบุรี ถึงแล้วก็ลุยเที่ยวต่อได้เลย
การเตรียมตัวนั่ง รถไฟนำเที่ยว
1. เช็กเที่ยวรถไฟก่อนเดินทาง
ตรวจสอบวัน เวลา สถานีให้ดีเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะ ไปผิดวัน ดูเวลาผิด ซึ่งจะทำให้เสียทั้งเงินและเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และควรเผื่อเวลาไว้เพื่อเช็กความถูกต้องที่สถานีอีกครั้ง ตรวจสอบกำหนดเวลาเดินรถได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย
2. ไม่ยื่นหน้า/มือหรือส่วนอื่น ๆ ออกนอกรถไฟ
เพราะตามทางอาจมีกิ่งไม้ จึงอาจได้รับบาดเจ็บได้
3. ระวังคนแปลกหน้า
รถไฟนำเที่ยว มักมีคนมากหน้าหลายตา เราต้องไม่รับฝาก/ถือของจากคนแปลกหน้า รวมทั้งไม่พกสิ่งของมีค่าหรือเงินจำนวนมาก ๆ เพราะบางครั้งคนเยอะทำให้มิจฉาชีพก่อเหตุได้ง่ายขึ้น
4. แต่งกายให้เหมาะสม
ควรเลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ทะมัดทะแมง ไม่อึดอัด
5. เตรียมอาหาร/เครื่องดื่มให้พร้อม
ในกรณีที่เดินทางไกลหลายชั่วโมง ควรเตรียมน้ำและของกินไปเผื่อ เพราะบางขบวนอาจไม่มีคนมาขายของหรืออาจเจอราคาที่แพง หากนำไปเองก็จะได้ประหยัดและสบายใจเรื่องความสะอาด
6. เช็กสัมภาระก่อนขึ้นและลงรถไฟ
เพื่อป้องกันการสูญหายและไม่ควรนำสัมภาระไปมากเกินจำเป็น เพราะพื้นที่รถไฟค่อนข้างจำกัด และคนเยอะโดยเฉพาะวันหยุด จึงควรตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่สลับกับของคนอื่น
7. นำพาวเวอร์แบงก์ไปด้วย
หากเดินทางไกล นอกจากจะรับลมชมวิวนอกหน้าต่างแล้ว หลายคนคงเลือกเล่นโทรศัพท์หรือไอแพดเพื่อรอเวลาให้ถึงจุดหมาย จึงควรใช้พาวเวอร์แบงก์ชาร์จแบตเพื่อให้ใช้เครื่องมือสื่อสารได้ในกรณีฉุกเฉิน
เป็นยังไงกันบ้างกับ 7 สาย รถไฟนำเที่ยว แต่ละที่ค่าเดินทางแสนถูก แถมมีที่เที่ยวน่าไปกันสุด ๆ เลยใช่ไหม แต่นอกจากจะเพลิดเพลินกับการนั่งกินลมชมวิวบนรถไฟแล้ว ก็อย่าลืมระมัดระวังตัวตลอดการเดินทางกันด้วยนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
wongnai.com, tripgether.com, travel.trueid.net, tripgether.com, tatcontactcenter.com