ถ้าพูดถึงการช็อปปิงในปี 2023 ก็คงหนีไม่พ้นการซื้อของออนไลน์แน่ ๆ ทั้งสะดวกสบาย นั่งเล่นอยู่ที่บ้านก็ชอปปิงได้ การซื้อของออนไลน์เลยเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ตลาดออนไลน์เติบโตขึ้นมาก ตอนนี้ไม่ว่าจะแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ หรือแม้กระทั่ง Supermarket เองก็เข้ามาขายบน E-Marketplace และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ กันทั้งนั้น
เมื่อตลาดออนไลน์ขยายตัวมากขนาดนี้ พ่อค้าแม่ค้าจะนิ่งอยู่ได้อย่างไร บทความนี้จึงจะมาแนะนำช่องทางขายของออนไลน์ที่ทั้งสะดวกต่อผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ซื้อ ใช้งานง่าย มือใหม่ก็ใช้ได้ จะมีอะไรบ้าง ไปเริ่มดูกันเลย!
รวมช่องทางขายของออนไลน์ยอดนิยม
1. LINE SHOPPING
ขอขอบคุณรูปภาพจาก line shopping
Line shopping เป็นหนึ่งในช่องทางขายของออนไลน์จาก Line แอปพลิเคชันแชตที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก โดย Line Shopping ถือเป็น E-Marketplace ที่สะดวกต่อผู้ซื้อเอามาก ๆ เพียงแค่มีบัญชี Line ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องโหลดแอปอื่น ๆ เพิ่มเติมให้ยุ่งยาก ทำให้ตอนนี้นักช็อปออนไลน์ก็หันมาซื้อของใน Line Shopping กันมากขึ้น
การเริ่มขายกับ Line Shopping ก็ง่ายมากและไม่เสียค่าบริการ โดยจะใช้ระบบ MyShop ช่วยจัดการร้านขายของออนไลน์ของคุณ และนอกจากนี้ Line Shopping ยังมีแคมเปญส่งเสริมการขายสินค้าหลายรูปแบบไว้ให้พ่อค้าแม่ค้า เช่น การสะสมคูปองเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม การกระตุ้นการขายด้วยคูปองส่วนลดพิเศษหรือนำคะแนนสะสม LINE POINTS มาแลกเป็นส่วนลดกับร้านค้าในภายหลังได้ ถ้าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ที่ยังไม่เคยขายของบน E-Marketplace ก็ขอแนะนำ Line Shopping เป็นช่องทางแรก
2. TikTok Shop
ขอขอบคุณรูปภาพจาก tiktok shop
TikTok แอปพลิเคชัน VDO สั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มียอดดาวน์โหลดกว่า 2,000 ล้านครั้งทั่วโลก ซึ่งทาง TikTok ก็ได้ออกฟีเจอร์ใหม่อย่าง TikTok Shop เป็นพื้นที่ E-Marketplace ให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ชอบทำคอนเทนต์ขายของเป็น VDO สั้น ๆ ซึ่งถือเป็นช่องทางการขายของออนไลน์ที่ง่าย และไม่เสียค่าบริการอีกหนึ่งช่องทาง
ข้อดีของการขายบน Tik Tok Shop คือ การที่สามารถสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบ VDO ครบจบในแอปเดียว และจากการที่มีจำนวนบัญชีผู้ใช้แอปเป็นจำนวนมาก ก็ทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้นเช่นกัน หากพ่อค้าแม่ค้าที่ชื่นชอบการทำคลิปรีวิวหรือโฆษณาสินค้าสั้น ๆ TikTok Shop ถือเป็นช่องทางการขายออนไลน์ที่ตอบโจทย์เอามาก ๆ เลย
3. Shopee
ขอขอบคุณรูปภาพจาก shopee
Ecommerce Platform ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมที่สุดเลยก็ว่าได้ เชื่อว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในยุคบุกเบิกหลาย ๆ คนเริ่มเข้า E-Marketplace จาก Shopee เป็นที่แรก Shopee เป็นแอปพลิเคชันสำหรับซื้อขายออนไลน์โดยเฉพาะ อีกทั้ง Shopee ยังช่องทางขายของออนไลน์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ซื้ออย่างมาก เพราะมีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย
เมื่อผู้ซื้อชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการแล้ว ระบบจะส่งเงินเข้าบัญชีของ Shopee ก่อนและเมื่อผู้ซื้อกดยืนยันว่าได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ระบบจึงจะโอนเงินไปสู่บัญชีของผู้ขาย ทำให้ลดอัตราการถูกโกงไปได้ นอกจากนี้ Shopee ยังมีแคมเปญส่งเสริมการขายสินค้าหลายรูปแบบ ทั้ง 2.2, 9.9 และคูปองส่วนลดอื่น ๆ อีกมากมาย แต่การขายของกับทาง Shopee อาจจะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมบ้างเล็กน้อย
4. Lazada
ขอขอบคุณรูปภาพจาก lazada
Ecommerce Platform อีกหนึ่งอันที่เป็นพื้นที่สำหรับซื้อขายสินค้าโดยเฉพาะ ปัจจุบัน Lazada ได้รับความนิยมมากขึ้นจากกลุ่มผู้ซื้อ เพราะใช้งานง่าย ได้ส่วนลดเยอะ ทาง Lazada มีแคมเปญส่งเสริมการขายมากมายเพื่อช่วยร้านค้าให้มียอดขาย เช่น แคมเปญเดือนต่าง ๆ รวมถึงคูปองส่วนลดหลายต่อที่ทำให้ความรู้สึกถึงความคุ้มค่า
นอกจากนี้ระบบการจัดหมวดหมู่สินค้าที่ดีของ Lazada ก็ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นเจอสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น แต่การขายของกับ Lazada ก็จะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมด้วยเช่นกัน
5. Facebook Marketplace
ขอขอบคุณรูปภาพจาก facebook
Facebook ก็เป็นอีกหนึ่ง Social Platform ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ซึ่งฟีเจอร์ใหม่อย่าง Facebook Marketplace พื้นที่สำหรับการขายของบน Facebook ความพิเศษของฟีเจอร์นี้ คือ เพียงแค่มีบัญชีผู้ใช้ Facebook ก็สามารถซื้อ หรือโพสต์ขายสินค้าบน Facebook Marketplace ได้เลย ไม่จำเป็นต้องมีเพจหรือร้านค้า และที่สำคัญคือสามารถลงขายได้ฟรี
ซึ่งในหน้า Facebook Marketplace จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
- ขายสินค้า (Sell Your Stuff)
- หาสินค้า (Browse to Buy)
- หาสินค้าหรือบริการในชุมชนรอบๆ (Search Your Surrounding)
Facebook Marketplace จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางขายของออนไลน์ที่เหมาะมาก ๆ กับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่เพิ่งเริ่มขายของออนไลน์
สรุป
ทั้งหมดนี้ก็คือ ช่องทางขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้ออย่างมาก ซึ่งแต่ละ Platform ก็มีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไป หากใครที่สนใจในการขายของออนไลน์ อาจจะยังไม่ต้องมีร้านค้าบนทุก ๆ Platform ก็ได้ เพียงแค่เลือกใช้สัก 1 ที่ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองก็พอ
ขอบคุณข้อมูลจาก
blog.boxme.asia, zortout.com, lineshoppingseller.com, zcooby.com, moneyduck.com