เตรียมความพร้อมก่อนไปแคมป์ เช็กเลย 20 อุปกรณ์แค้มปิ้งที่ต้องใช้

ใครสายท่องเที่ยวธรรมชาติแน่นอนว่าต้องไม่พลาดการไป “แค้มปิ้ง” ท่ามกลางป่าเขา เพราะเป็นการเที่ยวที่ได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติไปในตัว แต่การไปตั้งแคมป์ในแต่ละครั้งไม่ใช่แค่ต้องเตรียมใจไปอย่างเดียว เพราะควรที่จะเตรียมตัว และเตรียมอุปกรณ์  แค้มปิ้งให้พร้อมด้วยเสมอ ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมการเตรียมตัวก่อนไปแค้มปิ้ง รวมไปถึงให้ทุกคนได้รู้ว่าอุปกรณ์แคมป์ปิ้ง มีอะไรบ้าง ซึ่งได้รวบรวมไว้สำหรับเหล่านักท่องเที่ยวสายลุยไว้ที่นี่แล้ว!

การเตรียมตัวก่อนไปแคมป์ปิ้ง

ไปกางเต็นท์ต้องเตรียมอะไรบ้าง

1. เช็กสถานที่

เป็นสิ่งที่แรกที่ควรศึกษาก่อนออกเดินทางไปแค้มปิ้ง ว่าสถานที่ที่จะไปตั้งแคมป์นั้นใกล้ไกลแค่ไหน เหมาะกับตัวเองหรือเปล่า และควรศึกษาเส้นทางให้รอบคอบ เพราะบางเส้นทางอาจต้องใช้ความชำนาญในการขับรถ ที่สำคัญมือใหม่ควรเลือกสถานที่ที่ไม่ลำบากมากนัก เพราะประสบการณ์ยังน้อย ควรเลือกสถานที่ที่มีบริการลานกางเต็นท์ไว้อยู่แล้ว

 

2. เช็กสภาพอากาศ

เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องเช็กให้ดี เพราะสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ ในแต่ละเดือนมีความแตกต่างกัน ควรเลือกช่วงสภาพอากาศที่เหมาะสมกับการกางเต็นท์ แนะนำว่าควรเป็นช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว นอกจากนี้การเช็กสภาพอากาศจะช่วยให้สามารถเตรียมอุปกรณ์และเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศได้ โดยสามารถเข้าไปเช็กสภาพอากาศได้ผ่านกรมอุตุนิยมวิทยา

 

3. เลือกพื้นที่กางเต็นท์

เมื่อเลือกสถานที่แค้มปิ้งได้แล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือการเลือกตำแหน่งจุดที่จะตั้งแคมป์ให้เหมาะสม โดยต้องไม่เลือกจุดที่อยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่เพราะต้นไม้อาจหักโค่นลงมาเป็นอันตรายได้ ควรเช็กสภาพดินบริเวณนั้น ๆ ว่าแข็งหรือนิ่มเกินไปหรือไม่ รวมทั้งต้องสังเกตให้ดีว่ามีสัตว์เลื้อยคลาน หรือสัตว์ขนาดเล็กที่เป็นอันตรายอาศัยอยู่หรือเปล่า และควรหลีกเลี่ยงพื้นที่เป็นแอ่งเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังหากฝนตก

 

4. จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับตั้งแคมป์

การจะไปแคมปิ้งแต่ละครั้งก็ควรที่จะเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเสมอ เช็กสภาพอุปกรณ์วว่ามีอะไรชำรุดหรือไม่ แต่ก็ไม่ควรที่จะนำอุปกรณ์ไปเยอะเกินความจำเป็นเพราะจะเป็นภาระให้ลำบากในการเดินทาง ที่สำคัญหากต้องซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มเติมควรเลือกที่มีความทนทาน ถึงบางครั้งอาจมีราคาที่สูงแต่ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง

 

20 อุปกรณ์ที่ควรมีก่อนไปแคมป์ปิ้งมีอะไรบ้าง

อุปกรณ์กางเต็นท์

1. เต็นท์

เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับอุปกรณ์แค้มปิ้งชิ้นนี้ หากขาดไปก็ไม่สามารถเรียกว่าแค้มปิ้งได้ การเลือกเต็นท์ควรเลือกที่มีขนาดพอดี ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป ให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิก เลือกที่มีความทนทานแต่ก็มีน้ำหนักเบา ซึ่งตัวเต็นท์นี้ก็มีอยู่หลายแบบได้แก่ แบบสปริง คานเดี่ยว และคานคู่

2. ผ้าปูรองเต็นท์

ผ้าปูรองเตนท์ หรือ กราวนด์ชีต (Ground Shee) คือแผ่นรองเต็นท์เพื่อกันความเปียกชื้นจากพื้นดิน และเพื่อปรับระดับพื้นให้เท่ากัน นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเต็นท์ได้อีกด้วย

3. ที่นอน

ในบางฤดูกาลอาจมีฝนตกบ่อย ส่งผลให้ดินมีความชื้นและมีน้ำซึมออกมา จึงต้องมีเตียงผ้าใบ หรือเตียงเป่าลมที่ยกสูงขึ้นมาจากพื้นดิน

4. ถุงนอน

ถุงนอนควรเลือกให้กันความเย็น และสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้ เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายยามนอนหลับ เลือกขนาดที่เล็กกะทัดรัดสามารถพับเก็บได้ง่าย

5. ชุดสมอบก หรือหมุดตอกเต็นท์

โดยทั่วไปเวลาซื้อเต็นท์จะมีสิ่งเหล่านี้แถมมาในชุดอยู่แล้ว แต่ระหว่างการเดินทางหรือระหว่างการใช้งานอาจเกิดความเสียหายโดยไม่คาดคิดได้ เพราะฉะนั้นคงจะดีกว่าหากมีชุดสมอบกมีสำรองเอาไว้อีกชุดหนึ่ง โดยต้องเลือกสมอบกที่มีความแข็งแรง เหมาะสมกับขนาดเต็นท์และพื้นดินตำแหน่งที่จะกางเต็นท์ เพราะแต่ล่ะสถานที่ก็จะมีการใช้สมอบกและค้อนที่ลักษณะแตกต่างกันออกไป เช่น หากพื้นดินมีสภาพเป็นดินเหนียว ก็ควรที่จะใช้สมอบกลักษณะทรงกลม แต่ถ้าสภาพพื้นดินทรายควรเลือกที่เป็นลักษณะแบน

6. เก้าอี้พับ

ไม่ควรเลือกเก้าอี้ที่น้ำหนักน้อย กะทัดรัด เพียงอย่างเดียว เพราะต้องการให้พับเก็บง่ายประหยัดพื้นที่ แต่ควรคำนึงเรื่องความแข็งแรงที่จะรองรับน้ำหนักของผู้นั่งด้วย

7. ตู้เก็บของพับได้

ในการไปแค้มปิ้งแต่ละครั้ง อาจมีของหรืออุปกรณ์ที่เยอะ การที่มีตู้เก็บของจะช่วยให้เราสามารถจัดของได้เป็นระเบียบ หยิบใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ป้องกันสิ่งของจากพวกแมลงได้อีกด้วย

8. โต๊ะปิกนิก

เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ เพราะต้องใช้วางข้าวของและใช้จัดเป็นโต๊ะอาหาร ควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับความต้องการการใช้งาน เลือกที่มีความคงทนแข็งแรง และต้องไม่กินพื้นที่ภายในรถมากจนเกินไป

9. ฝักบัวอาบน้ำแบบพกพา

การไปแค้มปิ้งบางสถานที่จะไม่ได้มีบริการห้องน้ำให้ เพราะฉะนั้นฝักบัวแบบพกพาจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพราะฝักบัวแบบพกพาจะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการทำงาน และสามารถกักเก็ยน้ำได้พอประมาณ สะดวกต่อการเดินทาง

10. แก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ

การเดินทางบางครั้งเราอาจจะต้องการดื่มน้ำเย็น ๆ เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ซึ่งแก้วเก็บอุณหภูมิจะตอบโจทย์ในส่วนนี้ เพราะนอกจากจะพกพาง่าย ประหยัดพื้นที่แล้ว ยังสามารถรักษาความเย็นเพื่อให้เรามีเครื่องดื่มที่เย็นชื่นใจ

11. กระติกเก็บความเย็น

เสน่ห์ของการไปแค้มปิ้งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือการต้องทำอาหารรับประทานเอง ซึ่งการทำอาหารแน่นอนว่าก็ต้องมีพืช ผัก เนื้อสัตว์ ที่เป็นของสด ซึ่งตัวกระติกเก็บความเย็นนี้ก็จะเป็นตัวช่วยที่จะรักษาวัตถุดิบให้สด ใหม่ ในระหว่างที่กำลังเดินทางมาแค้มปิ้งนี่เอง

12. จาน ชาม หม้อ และ กระทะปิกนิก

ในเมื่อการไปแค้มปิ้งต้องทำอาหารเอง ดังนั้นเหล่าอุปกรณ์เครื่องครัวเพื่อใช้สำหรับ ต้ม ผัดก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย แต่ก็ต้องเลือกให้มีความเหมาะสมพกพาง่าย เช่น หม้อหรือกระทะ ควรเลือกแบบก้นลึก เพราะจะได้ปรุงอาหารได้หลากหลาย นอกจากนี้ก็อย่าลืมที่จะนำจาน ชาม ช้อน แบบพกพาไปด้วย เพื่อที่จะใช้รับประทานอาหารในแต่ละมื้อ

13. เตาแก๊สปิกนิก

สิ่งที่จำเป็นในการทำอาหาร ไม่ว่าจะทำประเภทอะไรที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟ ซึ่งการทำอาหารในขณะตั้งแคมป์ก็ควรเลือกใช้เตาแก๊สปิกนิก เพื่อความสะดวก พกพาง่าย ทำได้หลายมื้อไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด ทอด 

14. ไฟแช็กเดินป่า

การไปแค้มปิ้ง เมื่อตกกลางคืนสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือไฟเพื่อให้แสงสว่าง เนื่องด้วยการไปตั้ง   แคมป์นั้น ไม่ได้มีไฟฟ้าใช้เหมือนกับไปนอนโรงแรมทั่วไป เราจึงต้องมีไฟแช็กเดินป่าเพื่อจุดไฟให้ความสว่าง นอกจากนี้ยังต้องใช้เป็นตัวจุดไฟเพื่อใช้ประกอบอาหารด้วย ซึ่งไฟแช็กเดินป่านี้จะมีความแตกต่างกับไฟแช็กทั่วไปตรงที่จะจุดได้ง่ายกว่าและนานกว่า

15. ไฟฉายแรงสูง ตะเกียง หรือ โคมไฟ

ในการไปแค้มปิ้งบางครั้งอาจจะต้องเดินทางในที่มืด ดังนั้นจึงควรเตรียมสิ่งที่ให้แสงสว่างที่พกพาได้ ซึ่งอาจจะเป็นไฟฉาย หรือตะเกียงก็ได้โดยจะเลือกเป็นตะเกียงน้ำมันหรือตะเกียงไฟฟ้าก็ได้ตามสะดวก  แต่ที่นิยมคือจะใช้ไฟฉายแรงสูง

16. ถ่านไฟฉาย หรือ แบตเตอรี่สำรองไฟ

เป็นที่แน่นอนว่าการไปตั้งแคมป์กลางป่ากลางเขา จะไม่มีไฟฟ้าใช้ ดังนั้นก็ควรที่จะพกแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าเพื่อใช้ชาร์จแบตโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถชาร์จไฟด้วยสาย USB ได้ และหากใครที่พกไฟฉาย ก็อย่าลืมที่จะนำถ่านไฟฉายไปแค้มปิ้งด้วย

17. เครื่องสูบลมไฟฟ้า

หากใครนำอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีการเป่าลมก่อนที่จะใช้งาน เช่น ที่นอนเป่าลม เก้าอี้เป่าลม ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องสูบลมไฟฟ้า

18.  ค้อนสนาม และ มีดสนาม

ค้อนสนามและมีดสนาม จะเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้กางเต็นท์ได้ง่ายขึ้น เพราะในพื้นที่ที่เรากางเต็นท์บางครั้งจะมีอุปสรรคอย่างก้อนหิน หรือวัชพืชต่าง ๆ อยู่ จึงต้องมีการใช้ค้อนสนามหรือมีดสนามเพื่อช่วยกำจัดอุปสรรคเหล่านี้

19. ยากันยุง

เมื่อต้องเข้าไปพักผ่อนในแหล่งพื้นที่ป่า สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอนเลยคือยุง ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมยากันยุงไปเพื่อกันยุงและแมลงต่าง ๆ ควรใช้ยากันยุงแบบทาผิว และยากันยุงแบบจุด

20. ยาสามัญ  

การไปแค้มปิ้งอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอด ไม่ว่าจะอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยใด ๆ ดังนั้นยาสามัญประจำบ้านแบบพกพา เช่น แอลกอฮอล์, อุปกรณ์ล้างแผล, ยาแก้ปวด และ ยาหม่อง จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการไปแคมปิ้ง 

 

Press ESC to close