คอนโดมิเนียม นับว่าเป็นที่อยู่อาศัยที่เป็นที่นิยมมากเมื่อเราต้องเข้ามาใช้ชีวิตในเมือง เพราะการอยู่คอนโดก็เหมือนได้อยู่ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งรถไฟฟ้า ป้ายรถเมล์สายต่าง ๆ รวมถึงศูนย์การค้ามากมาย แต่ด้วยทำเลที่ดีขนาดนี้ทำให้คอนโด 1 ห้องก็มีราคาที่สูงตามไปด้วย สำหรับบางคนที่ย้ายเข้ามาทำงานในเมืองเป็นพนักงานประจำและอยากซื้อคอนโดเอาไว้อยู่สักห้อง การใช้เงินก้อนซื้อคอนโด 1 ห้องอาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่
ดังนั้นการกู้ซื้อคอนโดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเหมือนกัน แต่ก่อนจะไปกู้ซื้อคอนโด มารู้กันก่อนดีกว่าว่าในการ “กู้ซื้อคอนโด” เราต้องเตรียมอะไรบ้าง โดยสิ่งที่เราต้องเตรียมมีทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่ การเงิน เอกสาร และศึกษาธนาคารที่ต้องการกู้ซื้อ
1. การเงิน
เงินก้อนแรกในการซื้อ
สิ่งที่เราควรเตรียมเอาไว้เลยอย่างแรก คือ เงินประมาณ 5% – 30% จากมูลค่าห้องที่เราจะซื้อ เพราะเมื่อเราเลือกดูคอนโดและได้คอนโดที่ถูกใจจนตัดสินใจซื้อ เพียงแค่ตัดสินใจซื้อ จุดนี้ก็มีค่าใช้จ่ายแล้ว ได้แก่
- ค่าจอง เมื่อเราตัดสินใจจะซื้อคอนโด เซลล์ที่ขายห้องให้เราก็จะให้เราวางเงินเพื่อจองห้อง โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 50,000 บาท
- ค่าทำสัญญาซื้อขาย หลังจากเราจ่ายเงินค่าจองไปแล้ว ทางโครงการก็จะติดต่อให้เราเข้ามาทำสัญญาซื้อขาย ซึ่งค่าทำสัญญาก็จะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับมูลค่าห้องที่เราซื้อ
- วางเงินดาวน์ หากโครงการที่เราซื้อเป็นโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ หลังจากที่เราทำสัญญาซื้อขายแล้ว ในวันเดียวกันทางเซลล์ก็จะให้เราวางเงินดาวน์ โดยเงินดาวน์จะคิดรวมกับค่าจองและค่าทำสัญญาไปด้วย ราคารวมจะอยู่ที่ 10% – 35% ของมูลค่าห้อง (เช่น ซื้อห้อง 1,000,000 บาท ต้องจ่ายค่าจอง + ค่าทำสัญญาซื้อขาย + เงินดาวน์ = อย่างน้อย 100,000 บาท) สำหรับเงินดาวน์นั้นเราสามารถผ่อนจ่ายได้เรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่โครงการกำหนด ส่วนใหญ่ก็จะไม่เกิน 10 เดือน
หลังจากวางเงินทั้ง 3 ส่วนนี้หมดแล้ว ก็จะเป็นการทำเรื่องกู้กับธนาคาร โดยทางโครงการก็จะมาสอบถามเราว่าสนใจในการกู้ธนาคารไหนบาง หากเราเลือกธนาคารที่สนใจได้แล้ว ทางโครงการก็จะติดต่อธนาคารให้เราเบื้องต้น และธนาคารก็จะมาติดต่อเราเพื่อไปทำเรื่องกู้ซื้อต่อไป
เงินผ่อน
เงินผ่อน เป็นส่วนสำคัญและเป็นขั้นแรกของการประเมินตัวเองด้วยว่าเรามีความพร้อมและความน่าเชื่อถือแค่ไหน เราผ่อนไหวมั้ย หากเราผ่อนไปแล้วการเงินของเราขัดสนหรือเปล่า ดังนั้นก่อนการกู้ซื้อ สิ่งที่เราควรคิดคำนวณไว้ ได้แก่
- ยอดผ่อนต่อเดือน การคิดคำนวณยอดผ่อนต่อเดือนช่วยให้เรารู้ได้ว่า รายได้ต่อเดือนของเราจะเพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตและการผ่อนคอนโดหรือไม่ โดยสามารถเข้าเว็บคำนวณสินเชื่อ เพื่อใช้ประเมินยอดผ่อนต่อเดือนได้
- รายการการเดินบัญชี หากเราต้องการทำเรื่องกู้ซื้อ ธนาคารนั้นจะต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเรา จึงจะต้องขอดูรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนก่อนการยื่นขอสินเชื่อ ดังนั้นเราจึงควรเตรียมรายการเดินบัญชีของเราให้มีความน่าเชื่อถือ นำเงินเข้าออกอย่างมีระเบียบวินัย รวมถึงการผ่อนชำระหนี้สินตรงตามเวลาที่ต้องชำระด้วย
2. เอกสาร
ความพร้อมทางด้านเอกสารในการกู้ซื้อคอนโดก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ความพร้อมทางด้านการเงิน เราจึงทำเช็กลิสต์เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อกู้ซื้อคอนโดมา ดังนี้
เอกสารส่วนบุคคล
หากเรามีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวเราเองให้เตรียมพร้อมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น บัตรประชาชน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ และเอกสารส่วนบุคคลอื่น ๆ
- บัตรประจำตัวประชาชน, บัตรข้าราชการ, บัตรรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาทะเบียนสมรส, ใบหย่า, ใบมรณะบัตร (กรณีที่มี)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (กรณีที่มี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (กรณีที่มี)
เอกสารทางการเงิน
สำหรับเอกสารทางด้านการเงิน ก็จะต้องแบ่งออกเป็น 2 หมวดคือ พนักงานประจำ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ
พนักงานประจำ
- ใบรับรองเงินเดือน, หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงิน
- สำเนาบัญชีเงินฝาก
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน หรือหลักฐานแสดงสถานะทางการเงินอื่นๆ
- สำเนาทะเบียนการค้า, ทะเบียนบริษัท, ห้างหุ้นส่วน
- หลักฐานการเสียภาษี
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
- รูปถ่ายกิจการ
เอกสารหลักประกัน
เอกสารเหล่าจะได้รับก็ต่อเมื่อเราทำสัญญาซื้อขายกับทางโครงการแล้ว
- สำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย
- สำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด
- หลักฐานการผ่อนดาวน์ (กรณีที่มี)
3. ปัจจัยในการเลือกธนาคารเพื่อกู้ซื้อ
การเลือกธนาคารเพื่อขอสินเชื่อถือเป็นขั้นตอนที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะแต่ละธนาคารต่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนั้นเราควรจะศึกษาให้ดีเพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง โดยในการขอสินเชื่อธนาคารนั้นก็มีปัจจัยที่เราควรดูหลัก ๆ ดังนี้
อัตราดอกเบี้ย
ในการขอสินเชื่อธนาคาร สิ่งที่ควรมองหา คือ ธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เราจึงควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร แล้วค่อยเลือกธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด
วงเงินกู้
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือกธนาคารเพื่อกู้ซื้อคอนโด คือ วงเงินกู้เพราะถ้าหากเราได้วงเงินกู้ที่สูง ในช่วงแรกเราก็จะมีเงินเหลือจากการจ่ายค่าคอนโดมาเป็นค่าตกแต่ง หรือเอาไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ ถือว่าสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของเราในช่วงแรก ๆ ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
Leave a Reply